ปริมได้รับโทรศัพท์ จากหลายๆ ท่านโทรมาถามว่า จะปลูกมันพันธุ์อะไรดี มันช่างเป็นคำถามที่ตอบยากจริงๆ ค่ะ แต่วันนี้ปริมมีคำแนะนำเล็กๆ น้อยๆ มาฝากเผื่อว่าพอจะช่วยให้แต่ละท่านตัดสินใจได้ดีขึ้น
ก่อนอื่น เรามาทำความรู้จักกันก่อนว่า มันสำปะหลังมีกี่ประเภท หากแบ่งตามประเภทแล้ว มันสำปะหลังมีอยู่ 2 ประเภท คือ
1. ชนิดหวาน เช่น มัน 5 นาที ที่เราเอามาเชื่อม หรือเอามาบวช นั่นนะค่ะ มันชนิดนี้ใช้รับประทานได้
2. ชนิดขม เช่น พันธุ์ห้วยบง 60,80 ระยอง เกษตรศาสตร์ พวกนี้ ไม่สามารถนำมารับประทานได้เพราะมีกรดไซยาไนซ์สูง สารตัวนี้ถ้าสัตว์กินหรือคนกินเข้าไปมาก อาจถึงตายได้ แต่ว่า เราสามารถนำมาลดสารพวกนี้ลงได้ โดยการนำ พวก ลำต้น ใบมันสำปะหลัง ไปตากให้แห้ง แล้วสามารถนำมาเลี้ยงสัตว์ เช่น วัว ควาย ถ้าได้กินใบมันสำปะหลังแห้ง จะอ้วนท้วนสมบูรณ์มาก เพราะในใบมันสำปะหลังแห้ง พวกนี้จะมีโปรตีนสูงมาก เหมือนกับพวก อาหารอัดเม็ด ที่ใช้เลี้ยงสัตว์นั่นละค่ะ แต่เราไม่ต้องไปซื้อเขาให้เสียตังส์
ต่อมา เวลาจะปลูกมันพันธุ์ไหน เราควรพิจารณาจากลักษณะพันธุ์กรรม ของพันธุ์นั้นๆ ก่อนว่าดีหรือไม่ดี เปรียบก็เหมือนกับการเลือก พ่อพันธุ์ แม่พันธุ์นั่นแหละค่ะ ถ้าเลือกพ่อแม่พันธุ์ดี ลูกๆ ออกมา ก็สุงยาว เข่าดี หรือจะเลือกแบบ สวย หมวย และ ... ก็ตามใจสะดวก ดูจากรูปกันก่อนนะค่ะ
จากรูปให้สังเกตุว่า ผลผลิตเฉลี่ยต่อตัน/ไร่ ของแต่ละพันธุ์ไม่เท่ากัน ดูที่พันธุ์ ห้วยบง 60 นะคะ ผลผลิตต่อไร่ได้ 5.75 ตัน เปอร์เซ็นแป้งสูงถึง 25.4 ดังนั้นถ้าเลือกมันพันธุ์นี้ การที่จะดันให้ได้ผลผลิตสัก 10 ตันต่อไร่ก็ไม่ใช่เรื่องยาก ในขณะเดียวกัน ถ้าเลือก ระยอง 90 ให้ผลผลิต 3.69 ตันต่อไร่ ถ้าจะทำให้ได้ 10 ตันต่อไร่แสดงว่า ต้องออกแรงเยอะหน่อย กว่าจะได้เท่าห้วยบง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพันธุ์ระยองไม่ดีนะค่ะ เพราะว่านอกจากองค์ประกอบทางพันธุ์กรรมแล้ว ส่วนหนึ่งทีสำคัญไม่แพ้กันเลยก็คือ ลักษณะดิน เช่น ถ้าดินเป็น ร่วนเหนียว ควรเลือกปลูกพันธุ์ระยอง 5 เพราะลักษณะหัวมันจะป้อม ไม่เหมาะกับการปลูก ห้วยบง เพราะห้วยบงลักษณะหัวจะออกทางยาว กินพื้นที่ในการแทงหัวเยอะ แต่ถ้าเป็นดินร่วยทราย หรือ ทรายจ๋าเลย อันนั้นแหละปลูกห้วยบงไปเลยค่ะ
แต่ว่า ข้อดีข้อเสียของแต่ละพันธุ์ก็มีอยู่นะค่ะ ถึงแม้ว่าห้วยบงจะให้ผลผลิตสูงก็จริง แต่ว่าห้วยบงอ่อนแอกว่าระยองและเกษตรศาสตร์ เยอะ ต้องดูแลกันแบบลูกรัก ประคบประงมมากค่ะ แต่ถ้าเป็นระยองข้อดีคือ ทนโรค ทนฝน ทนแล้ง ทนแมลง แบบว่าความอดทนสูงสุดเลยค่ะ
ดังนั้นจะเลือกพันธุ์อะไรดี ปริมตอบไม่ได้ค่ะ มันต้องขึ้นอยู่กับสภาพดินของแต่ละพื้นที่และการดูแลเอาใจใส่ของผู้ปลูกเป็นหลัก แต่ถ้าจะให้แนะนำ ก็แนะนำว่า ในพื้นที่ปลูก ควรจะทดลองปลูกหลายๆ พันธุ์ดูก่อน แล้วลองเปรียบเทียบผลผลิตดูว่าพันธุ์ไหนเหมาะกับพื้นที่ของเรา ปีต่อไปก็ขยายพันธุ์จากที่ปลูกไว้นั่นแหละค่ะ โดยไม่ต้องซื้อ แถมยังขายท่อนพันธุ์ได้อีก
วันนี้ไขข้อข้องใจเรืื่องการเลือกพันธุ์มันไปเปราะหนึ่งแล้วนะค่ะ คราวหน้าเดี๋ยวปริมจะมาอัพเดพเรื่องวิธีการดูพันธุ์มันสำปะหลังว่า จะรู้ได้อย่างไรว่าพันธุ์ไหนเป็นพันธุ์ไหน พบกันคราวหน้านะค่ะ
14 พ.ค. 54
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น